กฎคำนามพหูพจน์
- การทำให้คำนามพหูพจน์เป็นพหูพจน์ ให้เติม ‑s ต่อท้าย …
- ถ้าคำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย ‑s, -ss, -sh, -ch, -x หรือ -z ให้เติม ‑es ต่อท้ายเพื่อให้เป็นพหูพจน์ …
- ในบางกรณี คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s หรือ -z กำหนดให้คูณ -s หรือ -z สองเท่าก่อนเติม -es สำหรับการพหูพจน์
มีกฎในการทำให้คำนามเป็นพหูพจน์หรือไม่
กฎพื้นฐานที่สุดคือ ในการทำให้คำนามเป็นพหูพจน์โดยเติมคำต่อท้าย -s (เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง); อย่างไรก็ตาม หากคำนามลงท้ายด้วย -s, -x, -z, -sh หรือ -ch (ยกเว้น-see เรามีข้อยกเว้นของคำที่ลงท้ายด้วย -ch ที่ออกเสียงด้วย k ยาก เช่น พระมหากษัตริย์ และ ท้อง) เพิ่มส่วนต่อท้าย -es เพื่อสร้างพิเศษ …
กฎ 8 คำนามพหูพจน์คืออะไร
8 กฎคำนามพหูพจน์
- คำนามพหูพจน์ 2: เพิ่ม "es" ให้กับคำนามที่ลงท้ายด้วย ch, sh, s, x หรือ z …
- คำนามพหูพจน์ 3: คำนามที่ลงท้ายด้วย "y" โดยมีพยัญชนะนำหน้า y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es …
- คำนามพหูพจน์ 4: คำนามที่ลงท้ายด้วย "y" โดยมีสระนำหน้า y เพียงเติม s
กฎในการสร้างคำนามที่ไม่ปกติมีอะไรบ้าง
คำนามพหูพจน์ที่เป็นพหูพจน์โดยการเปลี่ยนสระ การเปลี่ยนคำ หรือเติมคำลงท้ายที่ต่างออกไป:
- ผู้ชายมากกว่าหนึ่งคน=ผู้ชาย
- มากกว่าหนึ่งคน=คน
- เมาส์มากกว่าหนึ่งตัว=หนู
- เด็กมากกว่าหนึ่งคน=เด็ก
- มากกว่าหนึ่งฟุต=ฟุต
- ห่านมากกว่าหนึ่งตัว=ห่าน
- มากกว่าหนึ่งฟัน=ฟัน
- มากกว่าหนึ่งเหา=เหา
กฎ 5 ข้อในการทำคำนามพหูพจน์คืออะไร
กฎพหูพจน์: ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการใช้คำนามพหูพจน์ภาษาอังกฤษ
- วิธีสร้างคำนามพหูพจน์
- กฎพหูพจน์ 1: -s และ -es ต่อท้าย
- กฎพหูพจน์ 2: -y และ -ie ต่อท้าย
- กฎพหูพจน์ 3: -o ตอนจบ
- กฎพหูพจน์ 4: -f และ -fe endings.
- กฎพหูพจน์ 5: บางตอนจบ '-s' และ '-z'
- คำนามพหูพจน์ที่ไม่สม่ำเสมอในภาษาอังกฤษ