ตอร์ปิโดความร้อนสามารถมี มีพิสัยไกลกว่ามากที่ความเร็วสูงกว่าแบบใช้ไฟฟ้า เชื้อเพลิงเหลวเก็บพลังงานได้มากกว่า และสามารถเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเครื่องยนต์กังหันก๊าซสมัยใหม่ ทำให้ อาวุธร้ายแรงเหล่านี้มีระยะการสู้รบและความเร็วที่จำเป็นในการโจมตีเป้าหมายจากนอกระยะการตรวจจับ
ตอร์ปิโดแรงแค่ไหน
ตอร์ปิโด 62 ปล่อย น้ำหนัก 1,450กก. และสามารถบรรทุกหัวรบระเบิดแรงสูงได้ ตอร์ปิโดทำงานที่ความลึก 500 ม. และนำทางด้วยระบบกลับบ้านแบบแอคทีฟ/พาสซีฟ ตอร์ปิโดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เจ็ตปั๊มขั้นสูง และสามารถโจมตีเป้าหมายได้ภายในระยะมากกว่า 40 กม. ที่ความเร็วสูงสุด 40kt
ทำไมตอร์ปิโดถึงสำคัญนัก
เพราะ ความแรงและความเร็วของเรือดำน้ำที่ดีขึ้น ตอร์ปิโดจึงต้องได้รับการปรับปรุงหัวรบและเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น ในช่วงสงครามเย็น ตอร์ปิโดถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งไม่จำเป็นต้องโผล่ขึ้นผิวน้ำบ่อยนัก โดยเฉพาะลำที่บรรทุกขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์
ทำไมตอร์ปิโดถึงสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้
เพราะตอร์ปิโดสัมผัสทำให้เกิดฟองกับตัวเรือ น้ำที่ไหลกลับจะสะสมอยู่ที่รอยแตกที่เกิดจากการระเบิดครั้งแรก เมื่อมีน้ำไหลเข้ามาในจุดนี้มาก มันบังคับ กระแสน้ำที่แรงมาก ให้เข้าไปในรอยแยก
เรือจะรอดจากตอร์ปิโดโดนไหม
ขึ้นอยู่กับชนิดของตอร์ปิโด (สัมผัสหรือระยะใกล้) และตอร์ปิโดกระทบที่ใด ถ้ามันระเบิดใต้กระดูกงูของเรือ เรือตัดน้ำแข็งน่าจะ มีโอกาสรอดน้อยมาก ตอร์ปิโดประเภทนี้ ท้ายที่สุด ออกแบบมาเพื่อกำจัดแม้กระทั่งอาวุธติดอาวุธหนักที่สุดและหุ้มเกราะของ เรือรบสมัยใหม่