คำนามพหูพจน์สามารถใช้ทั้งบทความที่แน่นอนหรือไม่มีบทความเลย บทความที่แน่นอนคือคำว่า มันนำหน้าคำนามเมื่อมีการอ้างถึงสิ่งที่เฉพาะเจาะจง (เช่นแน่นอน) … คำนามพหูพจน์สามารถใช้กับบทความที่แน่นอนหรือไม่มีบทความเลย การใช้บทความที่ไม่แน่นอนจะไม่ถูกต้อง
กฎการสร้างคำนามพหูพจน์คืออะไร
กฎคำนามพหูพจน์
- การทำให้คำนามพหูพจน์เป็นพหูพจน์ ให้เติม ‑s ต่อท้าย …
- ถ้าคำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย ‑s, -ss, -sh, -ch, -x หรือ -z ให้เติม ‑es ต่อท้ายเพื่อให้เป็นพหูพจน์ …
- ในบางกรณี คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย -s หรือ -z กำหนดให้คูณ -s หรือ -z สองเท่าก่อนเติม -es สำหรับการพหูพจน์
คำนามอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎ?
คำนามไม่สม่ำเสมอ ที่เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงคำนามที่ไม่ปกติบางคำไม่ปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้เพื่อให้กลายเป็นพหูพจน์ ตัวอย่างเช่น พหูพจน์ของคนคือคน พหูพจน์ของผู้หญิงคือผู้หญิง และพหูพจน์ของห่านคือห่าน ในทำนองเดียวกัน หนูกลายเป็นหนูในรูปพหูพจน์ ในขณะที่บ้านกลายเป็นบ้าน
กฎ 5 ข้อในการทำคำนามพหูพจน์คืออะไร
กฎพหูพจน์: ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการใช้คำนามพหูพจน์ภาษาอังกฤษ
- วิธีสร้างคำนามพหูพจน์
- กฎพหูพจน์ 1: -s และ -es ต่อท้าย
- กฎพหูพจน์ 2: -y และ -ie ต่อท้าย
- กฎพหูพจน์ 3: -o ตอนจบ
- กฎพหูพจน์ 4: -f และ -fe endings.
- กฎพหูพจน์ 5: บางตอนจบ '-s' และ '-z'
- คำนามพหูพจน์ที่ไม่สม่ำเสมอในภาษาอังกฤษ
อะไรคือกฎเมื่อคุณมีคำนามเอกพจน์
คำนามเอกพจน์ส่วนใหญ่ ต้องการ 's' ต่อท้ายเป็นพหูพจน์. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย 's', 'ss', 'sh', 'ch', 'x' หรือ 'z' ต้องใช้ 'es' ต่อท้ายจึงจะกลายเป็นพหูพจน์ คำนามบางคำมีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน